ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
เพื่อทำให้อินเทอร์เน็ต
ปลอดภัยขึ้นสำหรับทุกคน
การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้คือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำและทุกผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างขึ้น เราคือผู้นำอุตสาหกรรมในการสร้างและแชร์เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับทุกคน
ให้ผู้ใช้ปลอดภัยขึ้นออนไลน์
เมื่อภัยคุกคามใหม่ๆ เกิดขึ้น ผู้ใช้ก็ต้องการเกราะป้องกันมากขึ้น เราจึงทุ่มเทสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ทุกคนโดยอัตโนมัติในทุกระดับความเสี่ยงของทุกผลิตภัณฑ์ของเรา
โปรแกรมการปกป้องขั้นสูง
สำหรับผู้ที่อาจถูกโจมตีมากที่สุด
โปรแกรมการปกป้องขั้นสูงเป็นการรักษาความปลอดภัยบัญชีที่แน่นหนาที่สุดของ Google และเป็นโปรแกรมฟรีโปรแกรมแรกของอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องบัญชี Google ส่วนบุคคลและองค์กรที่มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีทางออนไลน์แบบกำหนดเป้าหมาย เช่น ผู้กำหนดนโยบาย ทีมหาเสียงเลือกตั้ง นักข่าว นักเคลื่อนไหว และผู้บริหารธุรกิจ โปรแกรมจะรักษาความปลอดภัยให้กับบัญชีอย่างครอบคลุม โดยจะป้องกันภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการป้องกันใหม่ๆ เสมอ
ขอบเขตการใช้ข้อมูล
การจำกัดการใช้และการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล
เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ควรเก็บข้อมูลของคุณไว้เท่าที่ยังมีประโยชน์ต่อคุณเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้คุณหาจุดหมายปลายทางที่ชอบเจอใน Maps หรือการรับคำแนะนำว่าจะดูอะไรดีใน YouTube
ครั้งแรกที่คุณเปิดประวัติตำแหน่ง ซึ่งจะปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะตั้งให้ตัวเลือกการลบอัตโนมัติมีอายุ 18 เดือนโดยค่าเริ่มต้น การลบกิจกรรมบนเว็บและแอปโดยอัตโนมัติจะมีอายุ 18 เดือนโดยค่าเริ่มต้นเช่นกันสำหรับบัญชีใหม่ หมายความว่าข้อมูลกิจกรรมของคุณจะถูกลบโดยอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องหลังครบ 18 เดือน แทนที่จะเก็บไว้จนกว่าคุณจะเลือกลบทิ้งเอง คุณปิดการตั้งค่าเหล่านี้หรือเปลี่ยนการตั้งค่าการลบโดยอัตโนมัติได้ทุกเมื่อ
การเรียนรู้แบบสมาพันธ์
การสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์โดยไม่ต้องใช้ข้อมูลเป็นจำนวนมาก
การเรียนรู้แบบสมาพันธ์คือเทคโนโลยีขอบเขตการใช้ข้อมูลที่ Google เป็นผู้บุกเบิก ซึ่งนำข้อมูลเชิงวิเคราะห์ของแมชชีนเลิร์นนิงมาไว้บนอุปกรณ์ของคุณ แนวทางใหม่นี้เป็นการผสมข้อมูลที่ลบการระบุตัวบุคคลแล้วจากอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อฝึกโมเดลแมชชีนเลิร์นนิง การเรียนรู้แบบสมาพันธ์ช่วยสงวนความเป็นส่วนตัวของคุณด้วยการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในอุปกรณ์ของคุณให้มากที่สุด
การลบข้อมูลระบุตัวบุคคล
เพิ่มความเข้มงวดให้กับการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวด้วยการลบข้อมูลระบุตัวบุคคล
เราใช้เทคนิคการลบข้อมูลระบุตัวบุคคลชั้นนำเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณพร้อมทั้งปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เรารวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้นับล้านๆ คนและลบข้อมูลระบุตัวบุคคลเพื่อให้คุณเห็นความแออัดของสถานที่ก่อนจะไปถึง
Google Safe Browsing เวอร์ชันปรับปรุง
Google Safe Browsing เวอร์ชันปรับปรุงมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าการปกป้องของ Google Safe Browsing เดิม เพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นการป้องกันเชิงรุกและเหมาะกับความต้องการของแต่ละคนยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่เลือกเปิดใช้ Google Safe Browsing เวอร์ชันปรับปรุงใน Chrome ทาง Google จะประเมินภาพรวมของภัยคุกคามที่คุณเผชิญบนเว็บและการโจมตีบัญชี Google ของคุณโดยอัตโนมัติ และจะมอบการป้องกันเชิงรุกและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับความต้องการมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันฟิชชิง มัลแวร์ และภัยคุกคามบนเว็บอื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Safe Browsing เวอร์ชันปรับปรุง
ปลอดภัยยิ่งขึ้นในโลกออนไลน์ด้วยการทำงานร่วมกัน
เรามุ่งมั่นที่จะทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน โดยทำให้เทคโนโลยีหลายอย่างของเราเป็นโอเพนซอร์ส รวมถึงทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์และองค์กรต่างๆ เข้าถึงแหล่งข้อมูลของเราได้
การเข้ารหัส HTTPS
ช่วยทำให้เว็บไซต์ทั่วทั้งโลกอินเทอร์เน็ตปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส
การสนับสนุนบริการของเราเองด้วยการเข้ารหัส HTTPS ช่วยให้คุณมั่นใจว่าจะเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัย และป้อนข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขบัตรเครดิต ได้โดยไม่มีใครลักลอบดักข้อมูลดังกล่าว เราจะลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์และบริการของเรามี HTTPS ที่ทันสมัยให้บริการโดยค่าเริ่มต้น และเราจะช่วยให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เหลือหันมาใช้ HTTPS เช่นกัน ด้วยการมอบเครื่องมือและแหล่งข้อมูลให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกคน
Google Safe Browsing
การปกป้องคุณจากเว็บไซต์ แอป และโฆษณาที่มีความเสี่ยงทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต
เราสร้างเทคโนโลยี Google Safe Browsing เพื่อปกป้องผู้ใช้เว็บจากความพยายามโจมตีด้วยมัลแวร์และฟิชชิง โดยแจ้งเตือนผู้ใช้ที่กำลังจะเข้าชมเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย Google Safe Browsing ปกป้องแม้ผู้ที่ไม่ได้ใช้ Chrome เราได้เปิดให้บริษัทอื่นๆ ใช้เทคโนโลยีนี้ในเบราว์เซอร์ของตนได้ฟรี ซึ่งรวมถึง Safari ของ Apple และ Firefox ของ Mozilla เพื่อให้อินเทอร์เน็ตปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน ทุกวันนี้มีอุปกรณ์กว่า 4 พันล้านเครื่องได้รับการปกป้องจาก Google Safe Browsing นอกจากนี้ เรายังแจ้งเตือนให้เจ้าของเว็บไซต์ทราบเมื่อมีข้อบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในเว็บไซต์ และเสนอเครื่องมือฟรีที่จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ในสถานการณ์โควิด-19 Google มีการรายงานข้อมูลการเดินทางของบุคคลในชุมชน ซึ่งใช้เทคโนโลยีการลบข้อมูลระบุตัวบุคคลระดับโลก รวมถึง Differential Privacy เพื่อรักษาข้อมูลผู้ใช้ให้เป็นส่วนตัวและปลอดภัย
เทคโนโลยีความเป็นส่วนตัวแบบโอเพนซอร์ส
การแบ่งปันการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและนวัตกรรมของเรา
เรามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรานำเสนอและแบ่งปันความก้าวหน้าเหล่านี้กับผู้อื่นเสมอ จึงเป็นเหตุผลที่เราทำให้เทคโนโลยีการลบข้อมูลระบุตัวบุคคลขั้นสูงและขอบเขตการใช้ข้อมูลเป็นโอเพนซอร์ส อย่างเช่น Differential Privacy, การเรียนรู้แบบสมาพันธ์ และ Private Join and Compute เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครื่องมือโอเพนซอร์สเหล่านี้จะช่วยผลิตข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคนพร้อมทั้งปกป้องความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนด้วย
การป้องกันแบบครอบคลุมหลายบริการจะขยายขอบเขตการรักษาความปลอดภัยที่มีในบัญชี Google ไปยังแอปและเว็บไซต์ที่คุณลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google Sign-In เมื่อใช้การป้องกันแบบครอบคลุมหลายบริการในแอปและเว็บไซต์ เราจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการด้านความปลอดภัย เช่น การลักลอบใช้บัญชี ไปยังแอปและเว็บไซต์นั้นเพื่อใช้ปกป้องคุณได้ด้วย ในการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำนี้ เราได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีสำคัญรายอื่นๆ และชุมชนมาตรฐานเพื่อทำให้ทุกแอปนำไปใช้ได้อย่างง่ายดาย
Google ได้ริเริ่มโครงการรางวัลสำหรับการค้นหาช่องโหว่เพื่อมอบเงินตอบแทนแก่นักวิจัยอิสระที่ค้นหาช่องโหว่ในบริการของเรา เราตอบแทนความช่วยเหลืออันล้ำหน้าจากบุคคลภายนอกที่ช่วยเราดูแลผู้ใช้ให้ปลอดภัยด้วยการมอบเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อเป็นทุนวิจัยและเงินรางวัลในการค้นพบข้อบกพร่องในทุกๆ ปี ปัจจุบันเราเสนอรางวัลสำหรับการค้นพบช่องโหว่ในผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ซึ่งรวมถึง Chrome และ Android
นอกเหนือจากความช่วยเหลือของนักวิจัยอิสระแล้ว เรายังมีทีมวิศวกรภายในที่ใช้ชื่อว่า Project Zero ซึ่งติดตามและระบุข้อบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในซอฟต์แวร์ที่ใช้งานในอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเป็นผู้นำในการร่วมพัฒนามาตรฐานด้านการลงชื่อเข้าใช้และการตรวจสอบสิทธิ์ที่ปลอดภัยแน่นหนาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้บนเว็บ รวมถึงนำมาใช้งานด้วย เราทำงานร่วมกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมและใช้เทคโนโลยีร่วมกันด้วยการพัฒนามาตรฐานเว็บแบบรวมศูนย์ การร่วมมือดังกล่าวกับองค์กรการกุศลอย่าง FIDO Alliance เป็นการดำเนินการเพื่อกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่ให้ผู้ใช้ บริษัท และพนักงานนำไปใช้งาน ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าทุกคนจะเข้าถึงบัญชีได้อย่างปลอดภัย
เราแชร์เทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยเมื่อเชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ เช่น เราเปิดให้นักพัฒนาใช้ Google Cloud Web Security Scanner ได้อย่างอิสระเพื่อสแกนและวิเคราะห์เว็บแอปพลิเคชันเพื่อหาช่องโหว่ด้านการรักษาความปลอดภัย เราได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเครื่องมือด้านการรักษาความปลอดภัยที่พัฒนาภายในองค์กรหลายอย่างให้เป็นโปรเจ็กต์แบบโอเพนซอร์ส เพื่อให้ผู้อื่นนำไปใช้งาน
ผู้เชี่ยวชาญด้านความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ Google แชร์เคล็ดลับด้านความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยที่ Federal Triangle ในวอชิงตัน ดี.ซี.
เราจัดเตรียมเนื้อหาที่เป็นข้อมูลความรู้ การฝึกอบรม และเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้คนทั่วโลกได้เรียนรู้วิธีการออนไลน์อย่างปลอดภัย ในแต่ละปีทีมเผยแพร่บริการของเราเข้าถึงผู้คนมากกว่า 100 ล้านคนรวมทั้งนักการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้สูงอายุ และคนพิการ ด้วยแหล่งข้อมูลและการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยทางออนไลน์
Project Shield คือบริการที่ใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยของเราปกป้องเว็บไซต์ข่าวสาร องค์กรสิทธิมนุษยชน เว็บไซต์การเลือกตั้ง องค์กรทางการเมือง รวมถึงการรณรงค์หาเสียงและผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากการโจมตีแบบปฏิเสธการให้บริการแบบกระจาย (DDoS) การโจมตีเหล่านี้เป็นความพยายามที่จะทำให้เว็บไซต์ล่มด้วยการสร้างการเข้าชมแบบปลอมๆ ในปริมาณมากเกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญไม่ได้ Project Shield ให้บริการปกป้องเว็บไซต์ฟรีไม่จำกัดเวลาโดยไม่คำนึงถึงขนาดของเว็บไซต์หรือการโจมตี
เราได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการถ่ายโอนข้อมูลแบบโอเพนซอร์สและยังคงทำงานร่วมกับบริษัทต่างๆ เช่น Apple, Microsoft, Facebook และ Twitter เพื่อช่วยให้ผู้คนย้ายข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและลองใช้ผู้ให้บริการออนไลน์รายใหม่ได้อย่างง่ายดาย
เรามุ่งมั่นที่จะสร้างพื้นที่การทำงานร่วมกันอย่างแซนด์บ็อกซ์ความเป็นส่วนตัว และร่วมมือกับชุมชนออนไลน์เพื่อพัฒนา ชุดมาตรฐานแบบเปิดที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในขณะที่ยังคงสนับสนุนเนื้อหาฟรีและเข้าถึงได้ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต ในการแชร์แหล่งข้อมูลและแพลตฟอร์มนี้ เราหวังที่จะกระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าไปสู่ โลกออนไลน์ที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
การติดตามผู้สัมผัส
ด้านสาธารณสุขต่อสู้กับโควิด-19
เพื่อช่วยหน่วยงานรัฐบาลในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 Google และ Apple ได้ร่วมกันสร้างเทคโนโลยีการติดตามผู้สัมผัส เช่น ระบบการแจ้งเตือนความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยยึดเอาความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบ จากการร่วมมือและทำงานร่วมกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ หน่วยงานรัฐบาล และผู้ให้บริการสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาระดับโลกต่อไป และในขณะเดียวกันก็ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วยมาตรฐานระดับสูง
ดูวิธีที่ศูนย์วิศวกรรมด้านความปลอดภัยของ Google ทำการออกแบบเพื่ออนาคตแห่งความปลอดภัยในโลกออนไลน์